วิเคราะห์ IEC กับราคาในอนาคต

จากการวิเคราะห์ ราคา IEC ที่ 0.07 เป็นราคาที่ปลอดภัย และมีโอกาสขึ้นสูงกว่านี้มาก

IEC เป็นหุ้นที่ผมสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งหลังคุณภูษณได้เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริษัท ประกอบกับความชื่นชอบในหุ้นพลังงาน เพราะถ้าจ่ายไฟได้ มีรายได้แน่นอน ผมจึงได้ลองติดตามหุ้นตัวนี้มาได้สักพักใหญ่

ถ้าดูงบการเงินไตรมาส 2 นั้นหลายคนอาจจะผงะ เนื่องจาก

มีขาดทุนสะสมถึง 2,887 ล้านบาท

ส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น 7,850 ล้านบาท  

ซึ่งข่าวที่ออกมาว่าจะทำการจ่ายปันผล ทำให้เกิดความสงสัยว่าขาดทุนขนาดนี้ จะเป็นไปได้ด้วยหรือ? 

ซึ่งการลดพาร์ของ IEC จาก 0.10 เป็น 0.01 บาทคือคำตอบ เนื่องจากการลดพาร์ จะทำให้ส่วนเกินมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นมาถึง 11,100 ล้านบาท สามารถนำไปหักส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสม ทำให้บริษัทพร้อมจ่ายปันผลทันที ประกอบกับกำไรในปีนี้ มี EBITDA ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถนำมาจ่ายปันผลได้ งานนีันักลงทุนตาลุกแววแน่นอน

  

เมื่อมามองดูอนาคต ในปี 58 โรงไฟฟ้า 5 โรงจะสามารถจ่ายไฟได้เต็มปี บวกกับอีกหนึ่งโรงที่จะจ่ายได้เดือนมีนาคม  ทำให้กำไรในปี 58 ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 800 ล้านบาทนั้น มีความเป็นไปได้สูง ประกอบกับแผนการลงทุนโรงไฟฟ้า 10 โรงขนาด 40 MW ในปี 58 (ยังไม่รวมโปรเจคเสริมขนาดใหญ่ที่ยังไม่เปิดเผย) มูลค่า 3,000 ล้านบาท จะทำให้กำไรมีสิทธิ์เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,200 ล้านบาทได้ในปี 59 

เรามาดูถึงความเป็นไปได้กัน

IECเพิ่งเพิ่มทุน (PP 40,000 ล้านหุ้น และ RO 41,200 ล้านหุ้น) ทำให้บริษัทได้เงินมาเบาะๆ 2,470 ล้านบาท และทำให้ส่วนทุนมีค่าเท่ากับ 2,470+1,780 = 4,250 บาท 

และเมื่อไปดู D/E ถึงกับว้าว เพราะเท่ากับ 0.51 ถ้าคิดแบบอนุรักษ์นิยมสุดๆให้ D/E ได้มากสุด 2 เท่า จะทำให้สามารถกู้เพิ่มได้ถึง 7,600 ล้านบาท ซึ่งนำมารวมกับเงินสดในไตรมาส 2, กำไรปี 57, และเงินเพิ่มทุน จะทำให้บริษัทมีเงินพร้อมลงทุนในอนาคตถึง 10,700 ล้านบาท!!!

ทำให้การลงทุนโรงไฟฟ้า 10 โรงที่ใช้เงิน 3,000 ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องง่ายเสียเหลือเกิน และยังมีอีก 7,700 ล้านบาทในการลงทุนในปี 58 งานนี้ถ้าผู้บริหารเก่ง รับรองบริษัทโตวันโตคืนแน่นอน

ทีนี้เราลองมาคำนวนราคาในปี 59 อิงจาก P/E ปัจจุบันกัน

         จำนวนหุ้นในบริษัทหลังเพิ่มทุนเท่ากับ 204,825 ล้านหุ้น 

         กำไรที่คาดว่าจะได้ 1,200 ล้านบาทในปี 59

         P/E อิงกลุ่มพลังงานปัจจุบัน 12.5 เท่า

         จะได้ราคาหุ้นเท่ากับ (12.5 x 1,200)/204825 = 0.073 บาท!

เห็นอะไรมั้ยครับ จะสังเกตุว่าราคาตอนนี้ที่ 0.06-0.07 บาท ได้มารองรับอนาคตไว้แล้ว 

แต่อย่าลืมว่าการคำนวนของผมยังไม่รวมโปรเจคเสริมขนาดใหญ่ ประกอบกับเงินลงทุนที่เหลือถึง 7,700 บาทที่จะทำให้บริษัทเติมโตมีกำไรได้มากกว่านี้ และการจ่ายปันผลที่ทำให้นักลงทุนรายใหญ่เริ่มเข้ามาลงทุน รวมถึง PE ที่มีโอกาสสูงกว่าค่าเฉลี่ย ที่นี้พวกคุณคิดว่าราคาจะอยู่ที่ 0.07 ไหม... :)

เห็บ